What You Don t Know About Sboไทย
ทีมงานมูริญโญ่กล่าวว่า sboไทย หัวใจหลักของการพนันfootballและsoccerซึ่งเป็นหนทางสู่champต้องที่นี่ที่เดียวและข่าว
คงไม่มีใครไม่รู้จัก "ซีพีเอฟ" ซึ่งเป็นบริษัทของคนไทยที่ผงาดเป็นผู้ผลิตอาหารชั้นนำระดับโลก กับความมุ่งมั่นการเป็น "ครัวของโลก"
ที่ไม่หยุดเพียงแค่ตัวเลขการขายและกำไรที่เป็นเครื่องยืนยันความประสบความสำเร็จเท่านั้นแต่ยังต้องแสดงบทบาทหน้าที่ร่วมขับเคลื่อนสังคมและสิ่งแวดล้อม
เพื่อสร้างบรรทัดฐานในการเป็นองค์กรต้นแบบให้ธุรกิจขนาดต่างๆได้นำไปประยุกต์ใช้ในการสร้างธุรกิจที่ยั่งยืนที่ต้องเผชิญกับความท้าทายอย่างมากมายนายอดิเรก ศรีประทักษ์
กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหารจำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ มองว่า มาตรฐานและมาตรการต่างๆที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆในเวทีการค้าโลก ไม่ว่าจะเป็น
กฎเกณฑ์เงื่อนไขการค้า การตรวจสอบห่วงโซ่การผลิต มาตรฐานอาหารปลอดภัย หรือมาตรฐานปฏิบัติต่อแรงงานด้วยความเป็นธรรม
จะเป็นแรงผลักดันให้บริษัทได้พัฒนาขีดความสามารถของตัวเองเพื่อสร้าง "ครัวโลกยั่งยืน" ในการผลิตอาหารเพื่อตอบโจทย์ความต้องการประชากรทั่วโลกกว่า 3,000 ล้านคน ด้วยคุณภาพ ความปลอดภัย
ตรวจสอบย้อนกลับได้ทุกวันนี้สังคมและสาธารณะต่างมีความคาดหวังต่อบริษัทผู้ผลิตอาหารชั้นนำระดับโลก ซึ่งนอกจากเรื่องการผลิตอาหารที่มีคุณค่า คุณภาพ
ปลอดภัยได้มาตรฐานสากลที่บริษัทยึดมั่นมาตลอดแล้วนั้น สิ่งที่ผู้บริโภคและสังคมยังมีความห่วงใยและเป็นกังวลก็คือ "ความมั่นคงทางอาหาร"
เนื่องจากผลสำรวจขององค์การสหประชาชาติมีการคาดการณ์กันว่า ในปี 2050 จะมีประชากรเพิ่มสูงขึ้นถึง 9 พันล้านคน จากปัจจุบันที่มีจำนวนประชากร 7.3 พันล้านคน ซึ่งในจำนวนนี้ 22%
จะเป็นผู้สูงอายุและอยู่ในภูมิภาคเอเชียเป็นส่วนใหญ่ "ดังนั้นหนึ่งในความท้าทายของเราคือ การหันมาทุ่มเทวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ อาหารสุขภาพ
และอาหารสำหรับผู้สูงวัยมากขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคในอนาคต นอกจากนั้น "ห่วงโซ่การผลิตยั่งยืน" ก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่หลายภาคส่วนให้ความสนใจ
ตลอดห่วงโซ่การผลิตของเราจะต้องสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ถึงแหล่งที่มา จากความตั้งใจ จึงทำให้ซีพีเอฟกลายเป็นผู้ผลิตไก่ยั่งยืนรายแรกของโลก จากการรับรอง ProSustain standard ของ Det Norske Veritas (DNV-GL)
รวมถึงมาตรฐานการปฏิบัติต่อแรงงานด้วยความเป็นธรรมตามหลักสิทธิมนุษยชน
ก็เป็นสิ่งที่ซีพีเอฟตระหนักโดยได้กำหนดนโยบายการบริหารแรงงานด้านต่างๆที่ยึดถือตามแนวทางปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติและปฏิญญาว่า
เพื่อให้มั่นใจได้ว่าแรงงานของบริษัททั้งไทยและต่างด้าวจะได้รับการดูแลอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียม" นายอดิเรกกล่าวว่า
ได้กำหนดยุทธศาสตร์ในการเติบโตทางธุรกิจกับการเป็นผู้ผลิตอาหารระดับโลก 3 ประการ คือ 1.การสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยทำธุรกิจครบวงจรเริ่มต้นจาก อาหารสัตว์ ฟาร์มปศุสัตว์ และอาหาร
ซึ่งแต่ละประเทศจะสร้างต้นแบบความสำเร็จเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มเป็นของตนเอง 2.การขยายการลงทุนในประเทศที่มีศักยภาพ เพราะการลงทุนเพิ่มคือได้พื้นที่ การได้พื้นที่คือได้ตลาดเพิ่ม
นั่นคือการเติบโต เช่น การที่ซีพีเอฟ ขยายธุรกิจเข้าไปในแทนซาเนีย และแอฟริกา ถือเป็นจุดเริ่มต้นเพื่อขยายไปยังประเทศอื่นในภูมิภาค 3.การควบรวมกิจการ
ซึ่งเป็นการเรียนลัดด้วยรวมคนที่แข็งแกร่งมาร่วมงานด้วยเพื่อขยายเครือข่าย ซึ่งภายใต้ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว
ยุทธศาสตร์ทั้งสามประการนี้ยังมีโอกาสทั้งหมด"เรายังมองเห็นโอกาสสร้างการเติบโตอีกหลายประเทศทั่วโลก ทั้ง จีน อินเดีย รัสเซีย รวมไปถึงประเทศในแถบยุโรป
เนื่องจากมีจำนวนประชากรสูงสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มของผลิตภัณฑ์ได้สูงขึ้น อีกทั้งโมเดลธุรกิจของเราครอบคลุมตลอดห่วงโซ่การผลิต ตั้งแต่ อาหารสัตว์, ฟาร์มเลี้ยงสัตว์, อาหารแปรรูป
ตลอดจนถึงร้านค้าปลีกและธุรกิจร้านอาหาร ฉะนั้นเราจึงวางแผนนำโมเดลที่สำเร็จในประเทศไทยไปใช้ในฐานการผลิตในต่างประเทศ"สำหรับโครงสร้างรายได้ซีพีเอฟมีสัดส่วนจากต่างประเทศ 67%
และในประเทศไทย 33% เป้าหมายอีก 10 ปีข้างหน้าจะเติบโตปีละไม่น้อยกว่า 10% โดยในปีที่ผ่านมามียอดขายรวมทั้งสิ้น 430,000 ล้านบาท
การเป็นครัวโลกที่แข็งแกร่งพื้นฐานการทำธุรกิจต้องมีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงทั้งภายในและภายนอกประเทศได้อย่างรวดเร็วซึ่งในปี 2558
นี้ซีพีเอฟได้รับคัดเลือกเข้าเป็นสมาชิก DJSI Listed Company ในกลุ่ม DJSI Emerging Market แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนครอบคลุมทุกด้านทั้ง เศรษฐกิจ ด้านสังคม
และด้านสิ่งแวดล้อมกับการตอกย้ำการเป็นผู้นำด้านเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารระดับโลกที่มีทั้งการวิจัยและพัฒนาไปจนเทคโนโลยีสมัยใหม่และอีกหลายเงื่อนไขที่จะผลักดันให้ทุกฟากส่วนมี
"ความยั่งยืน" เติบโตก้าวไปด้วยกัน!! วานิชหนุ่ม wanich@thairath.co.th